Skip to content
Home » Blog » BMR คืออะไร? วิธีคำนวณ BMR และความสำคัญต่อสุขภาพและการลดน้ำหนัก

BMR คืออะไร? วิธีคำนวณ BMR และความสำคัญต่อสุขภาพและการลดน้ำหนัก

  • 2 min read

🧠 BMR คืออะไร?

BMR ย่อมาจาก Basal Metabolic Rate หรือ อัตราการเผาผลาญพื้นฐานของร่างกาย คือจำนวนพลังงาน (แคลอรี่) ที่ร่างกายต้องการใช้ในแต่ละวัน เพื่อให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ตามปกติ แม้ในขณะที่คุณนอนหลับหรืออยู่นิ่งๆ เช่น การหายใจ การไหลเวียนของเลือด การทำงานของสมอง และระบบย่อยอาหาร

BMR

💡 ทำไม BMR ถึงสำคัญ?

การรู้ BMR ของตัวเองช่วยให้คุณสามารถ:

  • ✅ วางแผนโภชนาการได้แม่นยำยิ่งขึ้น
  • ✅ คำนวณปริมาณแคลอรี่ที่ควรกินในแต่ละวัน
  • ✅ ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ✅ ป้องกันการกินน้อยหรือกินมากเกินไป

ลองนึกภาพดูว่าคุณลดน้ำหนักโดยไม่รู้ว่า “ร่างกายเราต้องใช้พลังงานเท่าไหร่ต่อวัน” มันก็เหมือนกับการเดินป่าโดยไม่มีแผนที่นั่นแหละ 😅


📊 วิธีคำนวณ BMR

มีหลายสูตรในการคำนวณ BMR แต่ที่นิยมมากที่สุดคือ Mifflin-St Jeor Equation ซึ่งให้ผลลัพธ์ค่อนข้างแม่นยำ

🔸 สูตรคำนวณ BMR สำหรับผู้ชาย:

BMR = (10 × น้ำหนักเป็นกิโลกรัม) + (6.25 × ส่วนสูงเป็นเซนติเมตร) – (5 × อายุ) + 5

🔸 สูตรคำนวณ BMR สำหรับผู้หญิง:

BMR = (10 × น้ำหนักเป็นกิโลกรัม) + (6.25 × ส่วนสูงเป็นเซนติเมตร) – (5 × อายุ) – 161

🧮 ตัวอย่าง:

ผู้หญิงอายุ 30 ปี หนัก 60 กก. สูง 165 ซม.
BMR = (10 × 60) + (6.25 × 165) – (5 × 30) – 161
= 600 + 1031.25 – 150 – 161
= 1320.25 kcal/day

นั่นหมายความว่า ถ้าเธอไม่ทำอะไรเลย ร่างกายของเธอก็ยังต้องการพลังงานวันละ 1,320 แคลอรี่ เพื่ออยู่รอด!


🔁 BMR กับ TDEE ต่างกันยังไง?

คนมักจะสับสนระหว่าง BMR กับ TDEE (Total Daily Energy Expenditure) มาดูความแตกต่างง่ายๆ:

ประเภทความหมายตัวแปรที่ใช้
BMRพลังงานที่ใช้ในสภาวะพักน้ำหนัก, ส่วนสูง, อายุ, เพศ
TDEEพลังงานที่ใช้รวมกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันBMR + ระดับกิจกรรม (เช่น ออกกำลังกาย)

📌 ตัวอย่างระดับกิจกรรม:

  • นั่งทำงานเฉยๆ: BMR × 1.2
  • ออกกำลังกาย 1–3 วัน/สัปดาห์: BMR × 1.375
  • ออกกำลังกายประจำ: BMR × 1.55 หรือมากกว่า

🥗 วิธีใช้ BMR เพื่อวางแผนลดน้ำหนัก

หลังจากที่คุณรู้ค่า BMR แล้ว ลำดับถัดไปคือการใช้มันให้เกิดประโยชน์ เช่น:

✅ 1. คำนวณ TDEE ของตัวเอง

ใช้ค่า BMR × ระดับกิจกรรมของคุณ = พลังงานที่ใช้จริงในแต่ละวัน

✅ 2. ตั้งเป้าหมายแคลอรี่

ถ้าต้องการลดน้ำหนัก: กินน้อยกว่า TDEE ประมาณ 500 kcal/วัน
เช่น ถ้า TDEE = 2,000 kcal → เป้าหมาย = 1,500 kcal

คำนวณ แคลอรี่ ได้ที่นี่

✅ 3. ปรับตามผลลัพธ์

ถ้าน้ำหนักไม่ลด ลองปรับแคลอรี่ หรืองานออกกำลังกาย


🔄 ปรับไลฟ์สไตล์ตามค่า BMR

แค่รู้ BMR อย่างเดียวไม่พอ ต้องนำไปใช้จริงด้วย:

  • 🥦 วางแผนมื้ออาหารตามปริมาณพลังงานที่เหมาะสม
  • 🏃 ออกกำลังกายเพื่อเพิ่ม TDEE
  • 🧘 พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนส่งผลต่อระบบเผาผลาญ
  • 🧠 หมั่นตรวจสอบความคืบหน้าของน้ำหนักและพลังงานที่ได้รับ

❓ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BMR

Q: คำนวณ BMR แล้วต้องอัปเดตบ่อยแค่ไหน?

A: ควรอัปเดตทุกครั้งที่น้ำหนักเปลี่ยนแปลงเยอะ หรือทุก 3–6 เดือน

Q: ถ้าน้ำหนักขึ้นหรือลง ค่า BMR เปลี่ยนไหม?

A: ใช่ครับ! น้ำหนักเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อ BMR

Q: ใช้แอปคำนวณ BMR ได้ไหม?

A: ได้แน่นอน เครื่องมือคำนวณฟรี


🌟 สรุป

ถ้าคุณอยากดูแลสุขภาพให้ดีหรือควบคุมน้ำหนักให้ได้ผล การรู้ BMR คือจุดเริ่มต้นที่ไม่ควรมองข้าม มันช่วยให้คุณรู้ว่า “ร่างกายของเราจริงๆ ต้องการพลังงานแค่ไหน” ไม่ใช่แค่ตามกระแส แต่เป็นการฟังเสียงร่างกายตัวเองแบบมีเหตุผล

อย่าลืม! ทุกคนมี BMR ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้น… หยุดเปรียบเทียบ แล้วเริ่มจากร่างกายของคุณเองก่อนเลย 💪

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *